วิเคราะห์ 4 ทีม ยูโรป้า ใครจะได้ไปต่อ?
ยูโรป้าลีก 2025 เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการตัดสินแชมป์ 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบเตรียมลงชิงชัยเพื่อเป็น 2 ทีม ที่จะได้ไปต่อในการคว้าโทรฟี่ใบนี้ แต่ละทีมน่าสนใจอย่างไร และทีมใดที่น่าจะมีโอกาสได้เข้าไปชิงชนะเลิศ เราจะมาวิเคราะห์กัน
สเปอร์ส – โบโด/กลิมท์
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำผลงานที่น่าประทับใจที่สุดของพวกเขาในฤดูกาลนี้ โดยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับการเอาชนะ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต แชมป์เก่าปี 2022 ไปได้ 1-0 ในเกมเลกที่สอง รอบก่อนรองชนะเลิศ โดย โดมินิก โซลันเก้ เป็นผู้ทำจุดโทษช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะด้วยสกอร์รวม 2-1 ในเกมถ้วยรองยุโรป
อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือสเปอร์สกล่าวภูมิใจกับผลงานของลูกทีมในเกมลูกหนังยุโรป ขณะที่ผลงานในลีกของ สเปอร์ส ค่อนข้างย่ำแย่ พวกเขาไม่สามารถรักษาความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่นได้เลย ดังนั้นในตอนนี้ ไก่เกือยทอง พุ่งเป้าทั้งหมดไปที่การคว้าแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ชูถ้วย ยูฟ่า คัพ ในปี 1984
“มันเป็นเกมใหญ่สำหรับเรา ไม่ต้องสงสัยเลย สำหรับฤดูกาลของเรา สำหรับทุกๆ อย่าง และสำหรับสิ่งที่เรากำลังพยายามทำให้สำเร็จ ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นกลุ่มนักเตะเหล่านี้ได้รับการตอบแทน” อังเก้ กล่าวก่อนเกมนัดสำคัญในรอบรองฯ
แม้ว่าโดยรวมแล้วสโมสรจากลอนดอนเหนือจะต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ยากลำบาก แต่ฟอร์มการเล่นของพวกเขาในรายการนี้ถือว่าน่าประทับใจ โดยแพ้เพียง 2 นัดจาก 12 เกม นอกจากนี้ พวกเขายังไม่แพ้ใครใน 19 นัดติดต่อกันในเกมยุโรป (ชนะ 15 เสมอ 4) ซึ่งย้อนไปจนถึงแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2019/20 และผลงานดังกล่าวทำให้พวกเขามั่นใจว่าจะออกสตาร์ตได้ดีในเกมกับ โบโด/กลิมท์
ในขณะเดียวกัน โบโด/กลิมท์ ก็สร้างประวัติศาสตร์ของพวกเขาด้วยชัยชนะในการดวลจุดโทษในรอบก่อนรองชนะเลิศเหนือ ลาซิโอ และกลายเป็นทีมจากนอร์เวย์ทีมแรกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันสโมสรชายชุดใหญ่ของยูฟ่า อย่างไรก็ตาม กุนซืออย่าง เคทิล คนุตเซ่น กระตือรือร้นที่จะยกย่องนักเตะของเขา มากกว่าที่จะชี้ไปที่เรื่องของโชคชะตาหรือดวง
“ผมไม่เชื่อในปาฏิหาริย์ ผมเชื่อในการเดินทางของเรา เราเล่นได้อย่างไม่ธรรมดา และเราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เข้ารอบรองชนะเลิศ” เขากล่าวเอาไว้แบบนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่น่าสนใจคือประวัติศาสตร์เข้าข้างพวกเขา โบโด/กลิมท์ เคยเผชิญหน้ากับคู่แข่งจากอังกฤษมาแล้วสามครั้ง และแพ้ทุกครั้ง โดยแพ้ให้กับ อาร์เซนอล สองครั้งในยูโรป้าลีก 2022/23 และแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งครั้งในช่วงต้นฤดูกาลนี้ในรอบลีกเฟส และแน่นอนว่า การเจอกับ สเปอร์ส จะสร้างความกดดันต่อพวกเขาแน่นอน
อย่างไรก็ดีทีมของ คนุตเซ่น ชนะมาแล้ว 8 จาก 10 นัดหลังสุดในฟุตบอลยุโรปรอบน็อคเอาท์ และยิงประตูไม่ได้เพียง 2 จาก 26 นัดหลังสุดในฟุตบอลยุโรป ดังนั้นพวกเขายังคงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม แม้จะต้องเจอคู่แข่งที่ชื่อชั้นดีกว่าก็ตาม
แอธเลติก บิลเบา – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะนำทาง บิลเบา ในการแข่งขันรายการนี้ พวกเขามุ่งหวังที่จะต่อยอดความสำเร็จจาก โกปา เดล เรย์ ที่น่าจดจำเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะจุดประกายให้เกิดแรกกระหายที่น่าตื่นเต้นให้กับแฟนบอล
เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือ บิลเบา คือผู้ที่ทำให้สโมสรแห่งนี้แข็งแกร่งด้วยขุมกำลังที่มี อีกทั้งการยื้อ นิโก วิลเลียมส์ ที่เนื้อหอมในตลาดนักเตะที่ผ่านมาให้อยู่กับทีมต่อไป ก็ทำให้ บิลเบา มีส่วนผสมที่ลงตัวเหมือนซีซั่นที่แล้ว ไม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงอะไรใดๆ มากนัก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม พวกเขาจึงขยับเข้าใกล้แชมป์ ยูโรป้าลีก ได้

เกมเลกแรก บิลเบา จะได้ลงเล่นที่ ซาน มาเมส ที่เปรียบเสมือนป้อมปราการที่แท้จริงในทัวร์นาเมนต์นี้ สำหรับทีมจากแคว้นบาสก์ เพราะ บิลเบา ชนะในบ้าน 6 นัดจาก 6 นัด ยิงได้ 14 ประตู และเสียเพียง 2 ประตู “การเชื่อมต่อกับผู้คนของเราทำให้เราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง” บัลเบร์เด้ กล่าวถึงผลงานทีมที่ดีเสมอยามเล่นในบ้าน
แน่นอนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังทำลายบรรยากาศที่ ซาน มาเมส พวกเขาเพิ่งกลับมาทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมกับเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยพลิกสถานการณ์จากการตามหลัง โอลิมปิก ลียง ที่กลับมาเก็บชัยชนะได้สำเร็จ
ปีศาจแดงยังคงเป็นทีมเดียวที่ไม่แพ้ใครในรายการนี้ในฤดูกาลนี้ โดยชนะ 7 นัดและเสมอ 5 นัดจาก 12 นัด แต่การเดินทางไปเยือนบิลเบาอาจถือได้ว่าเป็นบททดสอบที่ยากที่สุดของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อันน่าตื่นเต้นของชัยชนะในรอบก่อนรองชนะเลิศอาจเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาก้าวต่อไป ก่อนจะคว้าแชมป์ได้สำเร็จในยูโรป้าลีกเหมือนเมื่อปี 2017 ก็เป็นได้
“นี่เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างได้” รูเบน อโมริม กล่าว “บางครั้งเราแค่ดูแค่แง่มุมของแท็คติกและร่างกาย แต่ช่วงเวลาเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในความคิดของนักเตะได้”
ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองทีมพบกันเกิดขึ้นรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูโรป้าลีก 2011/12 โดย บิลเบา เอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 5-3 ก่อนจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ แต่ครั้งนี้อาจไม่ได้ลงเอยแบบเดิมก็เป็นได้
สำหรับรอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 4 ทีมที่กล่าวถึงล้วนมีโอกาสทั้งสิ้นที่จะได้เข้ารอบชิงฯ แต่หากวัดจากฟอร์มการเล่นในตอนนี้ โบโด/กลิมท์ ที่ต้องการสร้างประวัติศาสตร์ก็อาจต้องเสียท่าต่อ สเปอร์ส ที่ถ้วยนี้เป็นความหวังเดียวที่จะเรียกศรัทธาแฟนบอลกลับมา
ส่วน ปีศาจแดง พวกเขาล้มเหลวในลีกเช่นกัน ดังนั้นการเป็นแชมป์ ยูโรป้า มีความหมายอย่างมากต่อพวกเขา ทว่า การเจอกับ บิลเบา จะทำให้ ปีศาจแดง ตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน ด้วยรูปแบบการเล่น, ความเป็นทีม, ความแข็งแกร่งทั้งเกมรับและรุกที่ทุกอย่างลงตัวก็อาจทำให้ บิลเบา อยู่ในจุดที่มีโอกาสเข้าชิงได้มากกว่าเช่นกัน และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ ยูโรป้าลีก 2025 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง ยูโรป้าลีก 2025 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน